อาชีพเกษตรกรทุกวันนี้มีเพิ่มขึ้นมามากมาย และไม่มีทางตันน่ะค่ะ หากแต่ว่าเราคิดแล้วก็ต้องลงมือทำอย่างตั้งใจ ผลที่ได้นั้นย่อมสำเร็จแน่นอนและวันนี้บ้านน้อยก็มีอาชีพอีกอาชีพหนึ่ง ที่น่าสนใจมาฝากกันนั่นก็คือ”การเพาะต้นกล้า”ขายนั่นเองค่ะ ต้นกล้าของพืชผักสวนครัวต้นเล็กๆนี่แหละค่ะสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำอย่างแน่นอน และบ้านน้อยก็ยังมีเคล็ดลับการเพาะต้นกล้าให้แข็งแรงมาฝากกันอีกด้วยนะคะ ติดตามเคล็ดลับและวิธีการต่างๆด้านการเกษตรได้ที่นี่ บ้านน้อยดอทคอม
ต้นกล้าพืชผักสวนครัวเพาะมาจากเมล็ดพันธ์ุของพืชผักแต่ละชนิด ใช้เวลาในการเพาะประมาณ10-15วันจึงจะได้ต้นกล้าที่แข็งแรงและพร้อมนำไปปลูกได้ ปัจจุบันเมล็ดพันธ์ุมีราคาค่อนข้างสูงเกษตรกรส่วนใหญ่จึงจะทำการเพาะกล้าก่อนเพื่อจะได้ลดค่าใช้จ่ายในการซื้อเมล็ดพันธ์ุและได้ต้นกล้าที่แข็งแรงด้วย และก็มีเกษตรกรบางรายเหมือนกันที่นิยมซื้อต้นกล้ามาปลูกลงแปลงเลยโดยวิธีการนี้ก็ลดการเสียเวลาในการเพาะและได้พันธ์ุที่ต้องการ
[adinserter block=”2″]
แต่หากว่าเกษตรกรท่านไหนมีพื้นที่และมีเวลา อาชีพเพาะต้นกล้าเพื่อจำหน่ายนั้นก็เป็นอาชีพที่น่าสนใจเลยทีเดียวค่ะ และวิธีเพาะก็ไม่ยุ่งยากมากมายหากแต่ว่าต้องใส่ใจกันนิดหนึ่ง มีเทคนิคในการเพาะและก็วิธีการป้องกันศัตรูพืชทั้งหลายที่จะมาทำร้ายเมล็ดพันธ์ุที่ทำการเพาะ ต้นกล้าขายกันตอนนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าเป็นต้นกล้าของพืชผักชนิดไหน เวลาจำหน่ายก็จำหน่ายเป็นแบบถาดที่เพาะเมล็ดเลยก็ได้หรืออยากเพิ่มราคาขึ้นมาอีกก็ต้องเพาะเลี้ยงต้นกล้าจนได้ไปเพาะในถุงดำอันนั้นราคาก็จะเพิ่มขึ้นมาอีกค่ะ
เคล็ดลับและเทคนิคในการเพาะต้นกล้าก็มีวิธีการเพาะที่ไม่ยุ่งยากมากมาย เรามาดูวิธีการเพาะต้นกล้าให้แข็งแรงกันเลยนะคะเผื่อท่านไหนสนใจอยากทำการเพาะต้นกล้าขายจะได้ทำวิธีการเพาะไว้เป็นแนวทาง
วัสดุในการเพาะต้นกล้าให้แข็งแรง
- เมล็ดพันธ์ุที่ต้องการเพาะ (แช่น้ำก่อนนำมาเพาะประมาณ1คืน)
- ตะกร้าทรงเตี้ย หรือถาดพลาสติก
- กระดาษหนังสือพิมพ์
- ทรายหยาบทั่วไป
- ดินผสมปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก
- ถาดเพาะกล้า
ขั้นตอนและวิธีการเพาะต้นกล้า
- เอาทรายหยาบมาล้างให้สะอาดแล้วร่อน1รอบ
- วางกระดาษหนังสือพิมพ์รองก้นตะกร้าหรือถาดพลาสติกที่เตรียมไว้
- ใส่ทรายที่ร่อนแล้วลงทับบนกระดาษหนังสือพิมพ์ให้มีความหนาประมาณ 2.5 เซนติเมตร
- ใช้ไม้กรีดเป็นร่องลึกประมาณ 1 เซนติเมตรกรีดเป็นแถวเพื่อที่จะได้นำเมล็ดพันธ์ุมาโรยในร่องที่กรีด
- เมื่อโรยเมล็ดพันธ์ุเสร็จแล้วให้นำทรายกลบเมล็ดพันธ์ุ รดน้ำให้ชุ่มทิ้งไว้ไม่เกิน1สัปดาห์เมล็ดพันธ์ุก็จะเริ่มงอก
[adinserter block=”2″]
ทีนี้เราก็มาเริ่มนำต้นกล้าที่งอกมาเพาะในถาดเพาะกล้าได้แล้วล่ะคะขั้นตอนมีดังนี้
- นำกล้าที่งอกแล้วมีความสูงประมาณ2-3เซนติเมตรมาล้างทรายที่ติดกับรากออก
- นำกล้าแยกออกเป็นต้นๆมาจิ้มลงไปในถาดเพาะที่เตรียมไว้ใส่ดินที่ผสมไว้เรียบร้อยแล้ว
- ทำเบาๆนะคะไม่งั้นรากจะขาดใช้แหนบคีบต้นกล้าก็ได้ค่ะเพื่อป้องกันไม่ให้รากขาด
- ไม่เกิน15วันต้นกล้าก็จะโตและแข็งแรงพร้อมจำหน่ายหรือนำลงแปลงปลูกได้แล้วค่ะ
วิธีการและเทคนิคที่นำเมล็ดไปเพาะบนทรายก่อนนั้นจะทำให้ต้นกล้าแข็งแรง และป้องกันปัญหาโรคโคนเน่าของกล้าได้ดีและยังลดการเสียหายอันเกิดมาจากเมลงทั้งหลายแหล่อีกด้วยค่ะ การที่เราเพาะในถาดเพาะกล้าเลยนั้นบางครั้งจะเกิดปัญหาการไม่งอกของเมล็ดพันธ์ุและการเจริญเติบโตบางครั้งจะไม่ค่อยเสมอกัน หากแต่ว่าเราเพาะในทรายก่อนนั้นเราจะสามารถเลือกต้นที่แข็งแรงได้เมื่อเรานำมาเพาะในถาดหลุมก็จะได้ต้นกล้าที่เสมอกันค่ะ วิธีการเพาะแบบนี้สามารถใช้เพาะเมล็ดพันธ์ุพืชผักหรือดอกไม้ได้ทุกชนิดนะคะ ลองทดลองทำกันดูนะคะเพาะไว้ปลูกไว้รับประทานเองก็ได้หรือหากว่าอยากปรับเปลี่ยนทำเป็นอาชีพก็สามารถสร้างรายได้ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว พืชผักสวนครัวก็เป็นที่ต้องการของตลาดอีกด้วยใครๆก็ชอบทานผักและปลูกผักทานเองกันทั้งนั้น หากว่าเราทำอย่างจริงจังรับรองรายได้เข้ามาไม่ขาดสายอย่างแน่นอนค่ะ ผู้เขียนหวังว่าบทความนี้คงเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านไม่มากก็น้อยนะคะ ติดตามเทคนิคและวิธีการด้านการเกษตรต่างๆได้ที่นี่ Baannoi.com
ขอบคุณข้อมูลจาก จ้าวไก่เกษตร,ร้านตั้กเพาะกล้าขอนแก่น
