หลายๆท่านคงคิดว่าผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ทั้งหลายแหล่นั้นปลูกในเมืองไทยไม่ได้และถึงจะปลูกได้ก็ต้องเป็นที่อากาศเย็นมากๆอย่างภาคเหนือที่อยู่บนเขาบนดอย คิดใหม่ได้น่ะค่ะเพราะผลไม้ตระกูลเบอร์รี่นั้นสามารถปลูกในเมืองไทยได้ทุกพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ที่มีอากาศร้อนสูงอย่างเมืองหลวงอย่างกรุงเทพก็สามารถปลูกได้ วันนี้ผู้เขียนก็มีเทคนิคและเคล็ดลับวิธีการปลูกต้นราสเบอร์รี่แบบง่ายๆมาฝากกันค่ะ และมีสายพันธ์ุไหนบ้างบ้านน้อยดอทคอมก็จะมาแจงให้ผู้อ่านทราบกันน่ะค่ะจะได้ปลูกลูกเบอร์รี่หวานๆสดๆอร่อยๆไว้รับประทานกันเองที่บ้านง่ายๆและสามารถปลูกขายได้ด้วยค่ะ ติดตามเทคนิคเคล็ดลับและวิธีการต่างๆ ด้านการเกษตรทุกชนิด ได้ที่นี่ Baannoi.com
ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ที่มีจำหน่ายตามห้างหรือซุปเปอร์มาเก็ตต่างๆมีมากมายหลายสายพันธ์ุน่ะค่ะอย่างเช่น สตรอว์เบอร์รี่,บลูเบอร์รี่,มัลเบอร์รี่และก็ที่ผู้เขียนมีวิธและเคล็ดในการปลูกมาฝากก็คือลูกราสเบอร์รี่ค่ะ เบอรี่ทุกสายพันธ์ุมีหน้าตารูปร่างน่ารับประทานอยู่แล้วรสชาติก็ดีก็แล้ว แล้วประโยชน์ยังมีมากมายกว่าหน้าตาของเค้าอีกค่ะ แถมราคาก็ไม่ใช่ย่อยส่ะด้วยน่ะค่ะ
ประโยชน์ของเบอร์รี่มีมากมาย เช่น
- ต้านหวัดได้แบบเห็นผลอย่างน่าอัศจรรย์ เพราะผลไม้ตระกูลเบอร์รี่นั้นขึ้นชื่อลือชากันในเรื่องที่เค้าอุดมไปด้วยวิตามินซีที่ช่วยในด้านการป้องกันโรคหวัดอย่างได้ผล และยังช่วยในเรื่องที่สาวๆชอบคือ บำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล มีมากในผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ค่ะ
- บำรุงสายตาให้สดใส ไม่เบลอเวลากลางคืนเพราะสารเอนโธไซยานินที่พบจำนวนมากในผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ เช่น สตรอว์เบอร์รี่,ราสเบอร์รี่,เชอร์รี่ เป็นต้นค่ะ ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่มีส่วนช่วยในการป้องกันอาการอ่อนล้าจากการที่เราใช้สายตามากเกินไป อย่างสาวๆอ๊อฟฟิตนี่ผู้เขียนแนะนำให้รับประทานเยอะๆค่ะเพราะต้องใช้สายตาเพ่งจอคอมอยู่เกือบตลอดเวลา จะช่วยให้สายตาทำงานได้ดีขึ้นแม้แต่ในที่มืดค่ะ
- เพิ่มระบบภูมิต้านทานของโรคต่างๆ ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่เป็นผลไม้ที่เต็มไปด้วยวิตามินมากมายหลายชนิดอย่างเช่น A,B,C,E,K และยังมีโพแทสเซียมและอื่นๆอีกมากมายที่ร่างกายของเราต้องการเพื่อช่วยให้เซลล์ในร่างกายสามารถซ่อมแซมตัวเองจากโรคต่างๆได้ดีมากขึ้น อีกทั้งยังสามารถรักษาบาดแผล และป้องกันโรคมะเร็งลดการเป็นโรคลักปิดลักเปิดโรคแผลในช่องปากตลอดจนโรคต่างๆที่เกี่ยวกับข้อและโรคเกาต์ได้ด้วยค่ะ
- ช่วยในด้านความจำ นอกจากผลไม้ตระกูลเบอร์รี่จะมาสารต้านอนุมูลอิสระที่เบอร์รี่ช่วยในเรื่องผิวพรรณที่เปล่งปลั่งสดใสแล้ว เค้ายังช่วยในเรื่องของระบบสมองคือจะช่วยให้เซลล์สมองสามารถซ่อมแซมตัวเองได้ดีเพิ่มขึ้นทำให้สามารถมีส่วนช่วยในการจำของเราได้ดีขึ้น ใครชอบหลงๆลืมๆรับประทานไว้จะได้ความจำดีขึ้นน่ะค่ะ
- ช่วยในเรื่องควบคุมน้ำหนัก สาวๆชอบแน่ๆค่ะเรื่องน้ำหนักที่เกินมาแบบไม่ได้เชิญ ใครที่กำลังต้องการหาวิธีลดน้ำหนักอยู่แล้วล่ะก็แนะนำให้รับประทานผลไม้ตระกูลเบอร์รี่เป็นประจำน่ะค่ะ แต่ราคาก็แพงสมกับประโยชน์ของเค้าเหมือนกันก็ค่อยอ่านขั้นตอนและหามาปลูกรับประทานกันเองเป็นดีที่สุดประหยัดปลอดภัยและได้ประโยชน์ค่ะ เบอร์รี่ชนิดต่างๆมีแหล่งพลังงานชั้นยอดและมีแคลอรี่ต่ำช่วยเพิ่มความสดชื่นเวลารับประทานจะรู้สึกกระปรี้กระเปร่าและไม่เพิ่มน้ำหนักของเราด้วยค่ะ เพราะเส้นใยอาหารในเบอร์รี่ช่วยให้เรารู้สึกอิ่มเร็วและอิ่มท้องได้นานกว่าเดิมและยังช่วยในเรื่องของการย่อยและช่วยในเรื่องระบบขับถ่ายของร่างกายให้ทำงานเป็นระบบดีขึ้น ลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งลำไส้ อีกทั้งในเบอร์รี่ยังมีสารเพคตินที่ช่วยในการลดระดับคลอเรสเตอรอลควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้อีกด้วยค่ะ
- ช่วยในเรื่องระบบปัสสาวะ ใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินปัสสาวะหรือปัสสาวะอักเสบบ่อยๆแนะนำให้รับประทานเป็นประจำได้เลยค่ะ โดยเฉพาะในแครนเบอร์รี่ที่มีความสามารถป้องกันโรคทางเดินปัสสาวะอักเสบได้มากกว่าเบอร์รี่ตัวอื่นๆเพราะว่าเค้ามีความสามารถป้องกันเชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อว่า อีโคโลน์ ที่เป็นสาเหตุของโรคค่ะอีกทั้งยังมีสารแทนนินที่มีส่วนช่วยหยุดการสะสมตัวและการเกาะตัวของแบคทีเรียในบริเวณผนังทางเดินปัสสาวะอันเป็นสาเหตุในการเกิดโรคได้ค่ะ
ประโยชน์มากมายขนาดนี้ก็ไม่แปลกน่ะค่ะที่ราคาของเบอร์รี่แต่ละชนิดจะราคาสูงตามไปด้วย เพราะฉนั้นแล้วเรามาปลูกไว้ในสวนหรือในบ้านไว้รับประทานกันสดๆกันดีกว่าค่ะ ใครๆหลายๆคนมักคิดว่าเบอร์รี่ปลูกในบ้านเราหรือประเทศไทยเรานั้นยากที่จะได้ทานลูกของเค้า จริงๆแล้วปลูกได้ค่ะเพียงแค่มีวิธีการปลูกทีถูกต้องและเลือกพันธ์ุที่เหมาะกับสภาพอากาศบ้านเรา ต้นราสเบอร์รี่ก็เช่นกันมีพันธ์ุที่ชอบอากาศหนาวเป็นพิเศษถ้าอากาศไม่เย็นยะเยือกหรือไม่ใช่ฤดูหนาวแล้วจะไม่ออกผลให้เราได้ยลโฉมกันเลยทีเดียว แต่ว่าก็มีราสเบอร์รี่พันธ์ุที่ชอบอากาศร้อนแบบบ้านเราเช่นกันค่ะ ยิ่งร้อนยิ่งดกเรามาดูกันเลยน่ะค่ะว่าราสเบอร์รี่พันธ์ุไหนที่เหมาะที่เราจะนำมาปลูกไว้ในบ้านของเรา
ราสเบอร์รี่มี 2 ชนิดหลักๆค่ะ
ชนิดแรกคือ ฟลอริเคน
- ราสเบอร์รี่ชนิดฟลอริเคน จะชอบความเย็นมากถึงมากที่สุดค่ะ และจำเป็นจะต้องใช้ความเย็นแบบสะสมในฤดูหนาวอย่างเช่นประเทศที่มีหิมะตกเป็นต้น อุณหภูมิอยู่ที่ 0-7 องศาติดต่อกันนานถึง 800 ชั่วโมงเพื่อเค้าจะใช้อุณภูมิที่ต่ำเพื่อการพัฒนาการออกดอกออกผลสำหรับฤดูการถัดไป ออกผลปีละหนึ่งครั้ง พันธ์ุนี้หรือราสเบอร์รี่ชนิดนี้จึงถูกตัดไปถ้าจะนำมาปลูกในประเทศไทยหรือบ้านเราค่ะ
ชนิดที่สองคือ ไพรโมเคน
- ราสเบอร์รี่ชนิดนี้เหมาะอย่างยิ่งที่เราๆท่านควรสรรหามาปลูกในรั้วในสวนหรือแม้กระทั่งในกระถางในบ้านที่มีพื้นที่จำกัดค่ะ เพราะราสเบอร์รี่ชนิดนี้ไม่ต้องใช้ความเย็นในการติดดอกหรือออกผลแม้แต่นิดเดียวค่ะ ไม่ต้องปลูกในห้องแอร์ไม่ต้องปลูกบนเขาปลูกในบ้านเราได้อย่างสบายๆเลยค่ะ ในต่างประเทศนั้นราสเบอร์รี่ชนิดนี้จะออกผลปีละสองครั้งคือฤดูร้อนและฤดูใบไม้ร่วง แต่ว่าในประเทศไทยเราท่านทราบไหมค่ะว่าเค้าสามารถออกผลให้เราได้ทานกันได้หลายๆครั้งหรือตลอดปีเลยทีเดียวค่ะ แต่ว่าก็ต้องมีขั้นตอนการปลูกและดูแลรักษาอย่างเหมาะสม น่ะค่ะ
ราสเบอร์รี่ชนิดไพรโมเคน ก็มีที่นิยมปลูกกันและปลูกแล้วได้ผลกันอยู่ หลายสายพันธ์ุค่ะมีทั้งพันธ์ุสีเหลืองทองและก็สีแดงฉ่ำ
ราสเบอร์รี่สีแดงก็จะเป็นสายพันธ์ุ Redraspberry เรดราสเบอรี่ รสชาติจะออกหวานมากกว่าราสเบอร์รี่สีเหลืองหน่อยๆแต่คุณประโยชน์ไม่แพ้กันค่ะ
ราสเบอร์รี่สีเหลืองทองก็จะมี สายพันธ์ุต่างๆเช่น Fall Gold,Golden Everest,Anne raspberry รสชาติหวานอมเปรี้ยวอร่อยแต่จะมีความหวานน้อยกว่าสีแดงนิดหน่อยค่ะ
วิธีการปลูกและวิธีการดูแลรักษาต้นราสเบอร์รี่
- ดินที่ใช้ปลูก คือใช้ดินโปร่งที่ระบายน้ำได้ดีเช่น ดินผสมกับกาบมะพร้าวสับ ใบก้ามปู
- ใช้ฟางกลบโคนต้น รดน้ำวันละครั้ง
- การใส่ปุ๋ยให้ใส่ทุก 15 วันต่อครั้งแนะนำให้ใช้ปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ยหมักปุ๋ยคอกจะได้ปลอดสารเคมีค่ะ
- พ่นฮอร์โมนไม้ผลหรือพ่นน้ำหมักชีวภาพสูตรเร่งผล ทุก 10-12 วันต่อครั้ง
- ปลูกในกระถางปลูกในบ่อปูนกลมซีเมนต์ หรือขุดหลุมปลูกเป็นแปลงก็ได้ค่ะ
- ใช้ไม้ไผ่เพื่อยึดลำต้น
- เมื่อผลใกล้สุก 1-2 สัปดาห์ ก่อนเก็บผลให้หยุดการพ่นฮอร์โมนเพราะจะทำให้ผลเปลี่ยนสีได้
ปลูกในกระถางใช้แกลบกลบลำต้นดูแลรักษาง่ายๆตามวิธีการ
ใส่กระถางปลูกไว้ข้างบ้านง่ายก็ได้ผลผลิตที่น่าชื่นชม
เนื้อที่มากๆก็ปลูกเป็นแปลงสร้างรายได้อย่างงดงามเลยทีเดียว
ระยะเวลาในการปลูกจะใช้เวลาประมาณ 4-6 เดือนแล้วแต่ขนาดกิ่งพันธ์ุที่นำมาปลูกว่ามีอายุมากน้อยแค่ไหนถ้ามีอายุที่สมบูรณ์พันธ์ุก็จะใช้ระยะเวลาประมาณไม่เกินนี้ก็ออกลูกติดผลได้รับประทานกันตลอดปีแล้วค่ะและที่สำคัญราสเบอร์รี่เค้าชอบแดดค่ะและดินระบายดีแต่ไม่ชอบแฉะจนเกินไปดังนั้นวัสดุที่นำมาปลูกควรโปร่งระบายน้ำได้ดีเช่นพีทมอสเพอไลค์ค่ะหรือขุยมะพร้าวก็ใช้ได้เช่นกันค่ะ ทีนี้ก็ไม่ต้องซื้อมาทานในราคาแพงแล้วล่ะค่ะ ลองหาต้นราสเบอร์รี่มาปลูกไว้น่ะค่ะ ดูแลไม่ยากอย่างที่คิดค่ะหรือถ้าท่านไหนมีพื้นที่มากหน่อยก็ขุดแปลงปลูกเพื่อจำหน่ายต่อได้เลยค่ะ รับรองรายได้งามอย่างแน่นอนค่ะ ติดตามวิธีการและเคล็ดลับต่างๆด้านการเกษตรได้ที่นี่ Baannoi.com
เครดิตรูปภาพ : เพจคุณ Windmills Horticulture และ จำหน่ายต้นกล้าไม้เมืองหนาว/ต้นไม้หลายสายพันธ์ุ