วันนี้มีสูตรอาหาร สำหรับสาวกเกาหลีมาฝากกันค่ะ สูตรสำหรับวันนี้นั้น สามารถนำมาทำขายเป็นอาชีพเสริมได้เลยละคะ หรือจะทำเก็บไว้ทานในบ้านก็ได้ ด้วยวิธีการที่เหมือนจะยาก แต่กลับง่ายนิดเดียวค่ะ สูตรและเคล็ดลับ ที่ว่านั่นก็คือสูตรวิธีการทำ”กิมจิ”นั่นเองค่ะ ติดตามเคล็ดลับและ วิธีการทำกิมจิได้เลยค่ะ
“กิมจิ”เป็นอาหารเกาหลีประเภทผักดองเปรียบเทียบใส่บ้านเราก็น่าจะเหมือนกับผักกาดดองประมาณนั้นแหละค่ะ เป็นภูมิปัญญาชาวบ้านของชาวเกาหลี มีวิธีการทำโดยการหมักพริกเกาหลีที่มีสีแดงผสมกับผักสดต่างๆ โดยส่วนมากจะใช้หัวไชเท้าและผักกาดขาวเป็นต้น ตามที่บ้านน้อยได้ดูซีรีย์เกาหลีแต่ล่ะเรื่องนั้นไม่เห็นมีสักเรื่องว่าพระเอกนางเอกจะไม่มีการทานกิมจิเป็นอาหาร เลยคิดว่า“กิมจิ”น่าจะเป็นอาหารที่เคียงคู่กับชาวเกาหลีทุกมื้ออย่างแน่นอน
และก็เป็นจริงอย่างที่บ้านน้อยคิดไว้เปะเลยค่ะ “กิมจิ”เป็นอาหารที่ชาวเกาหลีนิยมนำมารับประทานแทบจะทุกมื้อ และยังสามารถนำมาปรุงเป็นส่วนประกอบอาหารชนิดต่างๆได้หลายเมนู เช่น ข้าวต้ม,ข้าวสวย,ซุป,ข้าวผัด,บะหมี่รวมถึงพิซซ่าเมนูโปรดของเด็กๆนั่นเองค่ะ
กิมจิรสชาติส่วนใหญ่แล้วจะมีรสออกเปรี้ยว,และมีกลิ่นฉุน บ้านน้อยเองก็ชอบนำมาทานกับหมูเกาหลีหรือหมูกะทะบ้านเรานี่แหละค่ะ ปัจจุบันหาซื้อทานได้ง่ายในบ้านเราตามห้างสรรพสินค้าหรือซุปเปอร์จะมีจำหน่ายทั่วไปราคาก็ตามแพคเกจที่แพ็คมาขายค่ะ แต่วันนี้บ้านน้อยได้รู้จักกับเพื่อนคนไทยสาวเหนือในต่างแดน ได้ให้สูตรและการทำกิมจิทุกขั้นตอนแบบละเอียดมากอ่านและดูวิธีทำแล้วสามารถทำตามได้เลยค่ะ มาดูวัสดุเครื่องปรุงและเคล็ดลับวิธีการทำ
วัสดุอุปกรณ์ในการทำ“กิมจิ”
- ผักกาดขาว 2-3 กิโลกรัม
- เกลือ 2-3 ช้อนโต๊ะ
- น้ำเปล่า 4 ถ้วยตวง
- กระเทียม 50 กรัม
- ขิง 40 กรัม
- แครอท 1 ถ้วยตวง
- น้ำปลา
- หัวหอมใหญ่ 1 ลูก
- แอ๊ปเปิ้ล 3 ลูก
- หัวไชเท้าหั่น 1-2 ถ้วย
- ต้นหอมและใบกุยช่ายหั่น 1 ถ้วยตวง
- กุ้งแห้งแบบชนิดจืด1/2ถ้วย
- ผงรสดี เพื่อเพิ่มรสชาตินิดหน่อย
- พริกเกาหลี 1 ถ้วยตวง
- ข้าวเหนียวต้ม (แป้งข้าวเหนียว 3 ช้อนโต๊ะต่อน้ำ2-3ถ้วยต้มไฟอ่อนแล้วเติมน้ำตาล2ช้อนโต๊ะ เคี่ยวพอให้แป้งเหนียวเป็นกาวค่ะ)
เคล็ดลับและขั้นตอนวิธีการทำ“กิมจิ”
- ล้างผักกาดขาว แล้วหิ้นเป็นชิ้นๆประมาณรูปค่ะเวลาหมักจะได้เข้าเนื้อและได้รสชาติที่อร่อย
- ใส่ผักกาดขาวลงไปในถังที่เตรียมไว้ แล้วนำเกลือใส่ในน้ำเปล่าคนให้เกลือละลายและเทน้ำเกลือราดลงไปในผัก ช่วงนี้ผักกาดขาวยังสดและกรอบให้ทิ้งไว้สักพักให้ผักกาดขาวอ่อนตัวก่อนประมาณ 10-15 นาทีค่อยกลับผักกาดขาวโดยการเขย่าถังก็พอค่ะไม่งั้นแล้วผักกาดขาวจะเละไม่สวยค่ะ กลับผักกาดขาวแล้วใช้จานมาวางทับปิดไว้
- ใช้ถังอีกใบหนึ่งใส่น้ำแล้วตั้งทับถังที่แช่ผักกาดขาวอยู่ด้านล่าง ทิ้งไว้1ชั่วโมงให้กลับผัก(ถ้าเป็นอากาศหนาวให้แช่ทิ้งไว้ประมาณ1วันหากอากาศร้อนให้ทิ้งไว้ประมาณ4ชั่วโมงเพื่อให้ผักสลบได้ที่และอ่อนตัว)เมื่อครบกำหนดเวลาแล้วให้นำผักกาดขาวมาล้างน้ำเปล่าให้หายเค็มประมาณ 2-3 น้ำ บีบน้ำออกจากผักกาดขาวให้หมาดแล้วพักไว้
- แป้งข้าวเหนียวที่ต้มแล้วจะมีหน้าตาดังภาพนี้น่ะค่ะ แป้งข้าวเหนียวนี้เราใช้ในขั้นตอนการผสมในน้ำกิมจิเพื่อใช้ช่วยให้เครื่องกิมจิติดกับผักกาดขาวเวลาทานกิมจิก็จะได้รสชาติทั้งเนื้อทั้งน้ำของกิมจิ หากแป้งข้าวเหนียวข้นหรือเหนียวเกินไปก็เพิ่มน้ำเข้าไปได้น่ะค่ะ
- แอปเปิ้ลล้างปอกเปลือกสับเป็นชิ้นๆเล็กๆ2ลูก
- แครอทและหัวไชเท้าล้างปอกเปลือกสับเป็นชิ้นเล็กๆ
- ต้นหอมและใบกุยฉ่ายหั่นเป็นท่อนๆ
- พริกเกาหลี ที่ใช้ให้เลือกที่เป็นเกล็ดแบบดังรูปภาพน่ะค่ะ ไม่ใช้แบบที่เป็นผงละเอียดค่ะ
- นำกระเทียม,ขิง,แอปเปิ้ล1ลูกล้างปอกเปลือกสับให้เป็นชิ้นเล็กๆ,หอมหัวใหญ่ นำส่วนผสมทั้งหมดปั่นให้ละเอียด
- หาหม้อหรือกะละมังเพื่อผสมส่วนผสมและเครื่องปรุงในการทำกิมจิ ใบใหญ่หน่อยนะคะ ใส่เครื่องปรุงที่ปั่นลงไปในหม้อใส่กุ้งจืด,แป้งข้าวเหนียว1ถ้วย,ใส่พริกเกาหลีประมาณครึ่งถ้วยคลุกเคล้าให้ส่วนผสมเข้ากัน
- ในขั้นตอนนี้สามารถใส่ปลาหมึกดองหอยดองผสมเข้าได้ด้วยใส่น้ำปลา2ช้อนโต๊ะใส่ทีละน้อยๆเดี๋ยวจะเค็มเอานะคะปรุงรสเพิ่มด้วยน้ำตาลรสดี ชิมรสให้ได้รสตามใจชอบแล้วใส่ต้นหอมและใบกุยฉ่ายลงไปผสม แล้วพักทิ้งไว้ ประมาณ 1 ชั่วโมง เมื่อคลุกเคล้าส่วนผสมแล้วใส่ต้นหอมและใบกุยฉ่ายแล้วก็พักทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง
- เมื่อหมักซอสกิมจิได้ที่แล้วก็ใส่ผักกาดขาวที่ดองเกลือไว้แล้วมาคลุกกับซอสกิมจิที่ได้ ใส่กล่องหรือภาชนะที่เก็บบรรจุไว้แบ่งเป็นกล่องเล็กๆก็ได้ใส่ตู้เย็นไว้ประมาณ 3 วัน ก็สามารถนำมาทานได้แล้วค่ะ
สำหรับซอสที่ปั่นหรือปรุงไว้แล้วนั้นหากทานไม่หมดก็สามารถเก็บไว้ได้นะคะ เป็นไงบ้างค่ะวิธีการไม่ยุ่งยากเลยสำหรับเครื่องปรุงเราก็สามารถปรุงรสให้มีรสชาติที่ถูกปากแต่อย่าให้เค็มมาก สำหรับสูตรนี้บ้านน้อยขอแนะนำว่านอกจากจะทำเก็บไว้ทานเองแล้ว เรายังสามารถทำขายเพื่อเพิ่มรายได้ทำเป็นอาชีพเสริมก็ใช้ได้เลยทีเดียว
บ้านน้อยต้องขอขอบคุณโลกออนไลน์ที่ทำให้เกิดมิตรภาพดีๆขนาดอยู่คนละฟากฟ้ายังสามารถรู้จักกันได้และยังมีน้ำใจแบ่งปันความรู้และข้อมูลดีๆให้แก่กัน ขอบคุณสาวสวยเมืองเหนือที่อยู่ไกลถึงญี่ปุ่นค่ะ บ้านน้อยหวังว่าบทความนี้คงเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่านไม่มากก็น้อยนะคะ ติดตามสูตรและเคล็ดลับวิธีการทำอาหารทุกเมนูได้ที่นี่ Baannoi.com
ขอบคุณข้อมูลดีๆจากคุณ Narumon Bono
