วันนี้บ้านน้อย ได้สูตรอาหารเวียดนามที่สามารถทานเป็นกับข้าวหรือทานเป็นอาหารว่างกับผักแนมเยอะๆมาฝากผู้อ่านกันค่ะ ที่เอามาลงในอาหารภาคอิสานก็เพราะว่าได้สูตรมาจากแม่ของเพื่อนที่เป็นเป็นคนไทยเชื้อสายเวียดนามซึ่งอยู่นครพนม สูตรนี้เป็นสูตรดั่งเดิมเลยล่ะค่ะแม่เพื่อนบอกมายังงั้น และก็ได้ชิมฝีมือแม่ของเพื่อนมาแล้วอร่อยมาก เลยอดไม่ได้ที่จะขอสูตรมาฝากผู้อ่านเว็บบ้านน้อยให้ได้ลิ้มลองรสชาติกันว่าเด็ดแค่ไหน เมนูที่ว่าถึงนี้ก็มีชื่อว่า อบหมูสูตรเวียดนามหรืออบหมูสมุนไพร ซึ่งภาษาเวียดนามจะเรียกกันว่า”หญ่าเก่ย” นั่นเอง ติดตามเคล็ดลับและวิธีทำอาหารทุกภาคทุกเมนูได้ที่นี่ บ้านน้อยดอทคอม
อบหมูจะเป็นเมนูอาหารที่มีสูตรไม่ตายตัวแล้วแต่ภาคไหนหรือใครจะดัดแปลงรสชาติ แต่สูตร”หญ่าเก่ย”หรืออบหมูสมุนไพร,อบหมูสูตรเวียดนามนี้ สามารถนำไปทำเป็นอบอย่างอื่นเช่นไก่,เป็ดหรือเนื้อได้เลยค่ะเพราะว่าเน้นเครื่องอบสมุนไพรเช่นข่า,ตะไคร้,ใบมะกรูดเยอะๆ เพื่อดับกลิ่นคาวของอาหารที่นำมาอบและเครื่องอบก็จะทั้งหอมและก็ทำให้รสชาติอร่อยเข้าถึงเนื้ออย่างลงตัว
“หญ่าเก่ย”เป็นอาหารเวียดนามที่มีหน้าตาและรสชาติคล้ายกับพะโล้หมูแต่ว่าไม่ใส่ผงพะโล้ค่ะส่วนสีก็ใช้การเคี่ยวน้ำตาลให้ไหม้แทนสีพะโล้และก็แทนซีอิ้วหวาน ส่วนรสชาติก็จะเผ็ดจากเครื่องสมุนไพรอย่างพริกไทยเม็ดและก็พริกแห้งที่ไม่ตำหรือโคลก ห่อกับผักกาดหอมหรือใบชะพลู(ผักอีเลิด)ต้นหอมผักชี ทานกันเป็นคำๆเข้าถึงรสชาติจนน้ำตาไหลเลยทีเดียว ส่วนหมูเราใช้ส่วนที่เป็นขาหมูหรือกระดูกอ่อน,หมูสามชั้น,เอ็นหมูก็ได้แล้วแต่ความชอบ ถ้าทำตามสูตรดั่งเดิมที่บ้านน้อยนำมาฝากกันในวันนี้รับรองว่า”งอนหลำ”(อร่อยมาก)แน่นอนค่ะ มาดูส่วนผสมและวิธีทำกันเลยน่ะค่ะ
เริ่มแรกเราเตรียมหมักหมูก่อนน่ะค่ะ เพราะเมื่อเราหมักเสร็จแล้วช่วงที่เตรียมเครื่องสมุนไพรเครื่องปรุงก็จะได้เข้าเนื้อหมูพอดีเป๊ะเลย วัสดุอุปกรณ์มีดังนี้ค่ะ
- หมูสามชั้น 1 กก. (ใช้ขาหมูก็ได้น่ะค่ะแต่วันนี้ผู้เขียนใช้หมูสามชั้นจะได้ตุ๋นเปื่อยๆอร่อยดี)
- น้ำมันหอย 1 ทัพพี
- ซีอิ้วขาว 1 ทัพพี
- น้ำปลา 1 ทัพพี
- เต้าเจี้ยว 2 ช้อนโต๊ะ
- กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
- พริกไทยเม็ด 1 ทัพพี
ขั้นตอนและวิธีทำ
- ล้างหมูสามชั้นให้สะอาด แล้วหั่นเป็นชิ้นไม่ต้องเล็กมากน่ะค่ะเพราะเวลาเราตุ๋นจะได้ที่หมูก็จะนุ่มและเปื่อยอยู่แล้ว
- ใส่ซีอิ้วขาว,น้ำมันหอย,น้ำปลา,เต้าเจี้ยว,กะปิ,พริกไทยเม็ด ผสมคลุกเคล้าให้เข้ากันกับเนื้อหมู แล้วนำไปแข่ตู้เย็นประมาณ 20 นาที
ทีนี้เรามาเตรียมเครื่องปรุงในการอบหมูเพื่อรอหมูที่หมักให้เข้าเนื้อกันเลยค่ะ วัสดุส่วนผสมมีดังนี้ค่ะ
- ใบมะกรูด 10-15 ใบ
- ข่าอ่อน 2 ถ้วยหรือ 1 แง่งใหญ่
- ตะไคร้ 20 ต้น
- รากผักชี 4-5 ต้น
- พริกแห้ง 1 ถ้วยเล็ก
หั่นตะไคร้,หั่นให้เป็นแว่นบางๆ ทุบรากผักชีพอบุบๆ,ล้างพริกแห้งและใบมะกรูดพักไว้ค่ะ ส่วนผสมทุกอย่างสามารถใส่มากกว่านี้ได้ เพราะยิ่งใส่มากก็ยิ่งเพิ่มความหอมค่ะ
ทีนี้มาถึงขั้นตอนในการอบหมูสูตรเวียดนามหรือหญ่าเก่ย ที่มีเคล็ดลับสำคัญแล้วละค่ะ
วัสดุเพิ่มเติมขั้นตอนนี้มีดังนี้ค่ะ
- น้ำตาลทรายขาวหรือน้ำตาลปิ๊บ 2 ทัพพี (ถ้าใครชอบหวานก็เพิ่มได้ค่ะ)
- น้ำเปล่า 1 ถ้วย
- ใบตอง สำหรับปิดหม้ออบหมู
เคล็ดลับและวิธีทำ
- ตั้งหม้อเคี่ยวน้ำตาลให้มีสีเป็นสีน้ำตาลเข้ม โดยการสังเกตให้น้ำตาลไหม้จากขอบข้างนอกจนมาถึงกลางจนทั่วด้วยไฟอ่อน รอให้น้ำตาลเดือดและไหม้จนได้สีเข้มตามที่ต้องการ แล้วค่อยๆเติมน้ำเปล่าลงไปเคี่ยวไว้สักพักพอเดือด
- นำหมูที่หมักไว้ออกมาเทใส่ในหม้อที่เคี่ยวน้ำตาลไว้แล้วใส่เครื่องข่า,ตะไคร้,ใบมะกรูด,พริกแห้ง,รากผักชี แล้วคลุกเคล้าให้เครื่องเข้ากัน เปิดไฟร้อนปานกลาง
- เคล็ดลับในการอบให้เครื่องหอมอบอวลเข้ากันกับเนื้อหมูและน้ำซุปที่เข้มข้นเนื้อหมูนุ่มเปื่อยละลายในปากก็อยู่ตรงนี้แหละค่ะ นำใบตองมาปิดทับบนหมูและเครื่องในหม้อที่อบรองสักสองชั้นก็ได้น่ะค่ะ
- เมื่อนำใบตองปิดจนเต็มแล้วก็ปิดฝาหม้อ แล้วใช้ครกหรือเขียงอะไรก็ได้ที่หนักๆหน่อยปิดทับไว้ ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาทีหรือนานกว่านั้นด้วยไฟอ่อน
- เมื่อตุ๋นหรืออบจนได้ที่แล้วก็เปิดผอบได้แล้วค่ะ กลิ่นสมุนไพรจะหอมฟุ้งขึ้นมาจนรู้สึกได้เลย ลองชิมรสชาติดูว่าหวานไปหรือเปล่าหรือรสชาติกลมกล่อมได้ที่หรือยังถ้าชอบเค็มนิดๆก็เหยาะเกลือเพิ่มแต่สำหรับหม้อนี้ชิมแล้วน้ำตาไหลอร่อยเหลือหลายเลยล่ะค่ะ
- เสริฟพร้อมข้าวสวยร้อนๆ กับผักกาดหอมพร้อมต้นหอมผักชีเข้ากันๆกัดโดนพริกไทยเม็ดบ้างโดนข่า,ตะไคร้บ้างรสชาติทั้งเผ็ดทั้งหอมเครื่องสมุนไพร พริกแห้งเป็นลูกโดดแต่ละคำที่ได้ทานเข้าไปรับรองว่าไม่ผิดหวังในรสชาติของ”หญ่าเก่ย”หม้อนี้เลยทีเดียวค่ะ
- หรือจะทานเป็นคำๆแบบเมี่ยงก็อร่อยค่ะห่อด้วยผักกาดหอมใส่ต้นหอมผักชีตักหมูนุ่มๆพร้อมด้วยสมุนไพรในชาม ทานเป็นคำๆอ้าปากกว้างๆทำตาโตๆ “งอนหลำ”อร่อยเหาะจริงๆเลยค่ะ
สำหรับเมนูอบหมูสูตรเวียดนามหรืออบหมูสมุนไพรสูตรนี้สามารถเก็บไว้รับประทานได้นานตามปริมาณที่ทำว่ามากหรือน้อย เก็บใส่ตู้เย็นไว้ได้เป็นเดือนๆเลยล่ะค่ะและสำหรับน้ำซุปก็ยังสามารถนำไปต้มใส่ไก่,เป็ดหรืออาหารอย่างอื่นได้อีกด้วย เรียกได้ว่ายิ่งอุ่นยิ่งอร่อยและเข้มข้นค่ะ ส่วนหม้อถ้าเป็นหม้อดินหรือโอ่งเล็กๆได้ยิ่งดีเพราะจะอบได้ดีกว่าหม้อสแตนเลสและยิ่งถ้าเป็นเตาถ่านยิ่งจะเข้าถึงสูตรโบราณดั่งเดิมมากยิ่งขึ้น อันนี้ก็แล้วแต่ว่าครัวใครมีภาชนะอะไรน่ะค่ะ อร่อยได้ตามใจสั่งค่ะอาหารทุกชาติทุกภาษาถ้าใส่ใจและทำด้วยใจรสชาติจะออกมาได้ยอดเยี่ยมและถูกใจผู้ที่ทานเสมอค่ะ ผู้เขียนหวังว่าบทความนี้คงจะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านไม่มากก็น้อยน่ะค่ะ ติดตามเคล็ดลับ,สูตรและวิธีทำอาหารทุกภาคได้ที่นี่ Baannoi.com
เคล็ดลับ: สำหรับท่านที่ชอบทานถั่วลิสงสามารถใส่ได้พร้อมกับตอนที่ใส่เครื่องสมุนไพรได้เลยค่ะแต่หม้อนี้ผู้เขียนไม่ได้ใส่เพราะผู้เขียนไม่ค่อยชอบทานถั่วค่ะแต่สูตรจริงๆที่แม่ของเพื่อนบอกมาจะใส่ถั่วด้วยจะได้รสชาติอีกแบบหนึ่งน่ะค่ะ